ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจะมีเทรนด์ด้าน Graphic Design หรือ Visual Design ใดบ้างที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการสื่อสารของผู้คนในยุคดิจิทัล เราจะมาร่วมสำรวจและค้นหาแนวโน้มของ Graphic Design Trend ในปี 2020 ไปด้วยกัน
สำหรับโลกวันนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่การออกแบบและสร้างสรรค์จะปราศจากบริบทแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผลงาน Visual Design, Visual Arts และ Graphic Design จึงจำเป็นต้องการรวบรวมรูปแบบของภาพ (Visual Pattern) เพื่อคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มอย่างไร ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเทรนด์ได้กลายเป็นเกณฑ์มาตรฐาน ฐานข้อมูลอ้างอิง และแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับนักออกแบบ เราจึงได้รวบรวมสไตล์หรือภาษาภาพที่ถูกนำมาใช้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีผลกระทบและการกำหนดรูปแบบทางการออกแบบ เพื่อช่วยให้เราคาดการณ์ Graphic Design Trend ในปี 2020
1. Typography Approaches
ในที่สุดแบรนด์ต่าง ๆ ก็มีความกล้าหาญในการออกแบบด้วยตัวอักษร (Typographic Design) เพียงอย่างเดียว เพื่อทำหน้าที่ในลักษณะเป็นภาพหลักทางการสื่อสาร และมีแนวโน้มที่จะได้เห็นธุรกิจจำนวนมากยอมรับเทรนด์นี้ในปี 2020 โดยเฉพาะแบรนด์สมัยใหม่
เทคนิค Typography จะมีประสิทธิภาพอย่างมาก ในการช่วยให้แบรนด์สามารถส่งสารผ่านข้อความที่เรียบง่าย ชัดเจน และมีเอกลักษณ์ มันเป็นวิธีการที่ดีสำหรับแบรนด์ ที่สื่อสารได้อย่างตรงประเด็น ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะเป็นกระแสหลัก โดยรูปแบบจะมีความสร้างสรรค์มากขึ้นในปี 2020
2. Visual Storytelling & Illustration
หลายปีที่ผ่านมาภาพประกอบเป็นหนึ่งในแนวโน้มที่ชัดเจนที่สุดในการออกแบบ โดยจุดเด่นของภาพประกอบคือ การตีความแนวคิดออกมาเป็นภาพที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจแนวคิดเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น นอกจากนั้นภาพประกอบที่ดีบางครั้งอาจให้เกิดความคิดริเริ่มใหม่ ๆ ให้กับแนวคิดของเนื้อหาในการถ่ายทอดข้อความได้มากขึ้น
ส่วนการเล่าเรื่องในการออกแบบนั้น จะเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ใช้ในการเดินทางบนแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ง่ายและราบรื่นเท่าที่จะเป็นไปได้ (ในการออกแบบ UX) เรื่องราวที่ดีช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจผลงานออกแบบได้ง่ายขึ้นในการบอกเล่าเรื่องราว
เราสามารถใช้ตัวละครที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ โดยที่เรายึดถือลักษณะที่เราสร้างเรื่องราว และความสับสนจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการออกแบบของเรา (การออกแบบ UI) นี่คือพื้นฐานในการเล่าเรื่องที่จะถูกนำมาใช้สำหรับงาน Graphic Design มากขึ้น เพราะปัจจุบันผลงานจะอยู่ในรูปของ Digital Product มากขึ้น
3. Minimal & Flat Design Style
ในหลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นเทรนด์การออกแบบเรียบง่าย หรือที่เรียกว่า Minimal Design และ Flat Design ซึ่งครองโลกของดิจิตอล และเทรนด์นี้น่าจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ปี 2020 เพื่อให้สอดคล้องกับการแสวงหาความโปร่งใสและความสุจริต อันสืบเนื่องมาจากนโยบายทางการตลาดสมัยใหม่ที่ผู้รับสารต้องการการสื่อสารที่จริงใจ โปร่งใส ตรงไปตรงมา
การออกแบบจึงมีลักษณะ ขจัดลูกเล่น เทคนิคพิเศษ หรือการปรุงแต่งต่าง ๆ ออกไป เพื่อนำการออกแบบไปสู่การนำเสนอที่ง่ายและตรงไปตรงมามากขึ้น Flat Design ที่มีลักษณะการใช้แม่สีหลัก ภาพประกอบแบบ 2 มิติ และตัวอักษรที่อ่านและใช้งานง่าย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องในเชิงหน้าที่การใช้งาน (Function) โดยประโยชน์หลักของ Flat Design ที่สำคัญคือช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับ Interface และค้นหาเนื้อหาที่กำลังมองหาได้อย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ Flat Design จะมีจุดต้นกำเนิดมาจาก Digital Platform แต่หลักการนี้ เริ่มมีอิทธิพลต่อสื่อแบบดั้งเดิมเพิ่มมากขึ้น ดังที่เห็นได้จากเนื้อหาแบบสื่อสิ่งพิมพ์ที่ถูกแบ่งออกเป็นลำดับชั้น เป็นมิตรกับผู้ใช้ และเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
อาจกล่าวได้ว่า อะไรก็ตามที่ต้องทำงานผ่านสื่อกลาง (Medium) การคำนึงถึงประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านการออกแบบ UX (User Experience) จะถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักออกแบบกราฟิกในปี 2020 ที่จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้น ความท้าทายของนักออกแบบคือจะใช้ Flat Design ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชาและไร้อารมณ์ นั้นให้มีความน่าสนใจได้อย่างไร
4. 3D Style
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาการออกแบบจำนวนมากได้สร้างความรู้สึกแบบ 3 มิติ ให้กับผู้ชมโดยการรวมองค์ประกอบของตัวอักษร รูปภาพ และรูปทรงแบบต่าง ๆ ซึ่งมักสะท้อนถึงการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างความลึก ความมีชีวิตชีวา และช่วยให้การออกแบบที่ดูวัยรุ่น ทันสมัย มีสุนทรียะในการมองโลกในแง่ดี รวมทั้งสื่อถึงความทันสมัยได้
ซึ่งการอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ที่เป็นแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งเทคโนโลยี 3D Render ถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันเทรนด์นี้ 3D Abstract มักจะถูกจับคู่กับสีที่สดใส การไล่ระดับสี ลักษณะสีแบบนีออน ฟลูออเรสเซนต์ และสีสันสดใส ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักออกแบบ เพื่อช่วยให้การออกแบบโดดเด่น ซึ่งเชื่อว่าจะกลายเป็นเทรนด์ที่แข็งแกร่งในปีต่อ ๆ ไปเช่นกัน
5. Graphical Disruption
งานออกแบบในบางหมวดหมู่มีความมีระเบียบเรียบร้อย การคุมโทนสี และแบบอักษรที่ละเอียดอ่อนจะน้อยลง โดยสิ่งเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยเฉดสี และลักษณะภาพที่กบฏและรุนแรงมากขึ้น การทำซ้ำข้อความเหมือนการประท้วง และการใช้สีดำอย่างกล้าหาญและดุดันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาของความไม่สงบทั้งทางการเมือง สังคมและระบบนิเวศต่าง ๆ
ซึ่งเทรนด์นี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกผลิตภัณฑ์ คำถามจึงอยู่ที่ว่านักออกแบบและแบรนด์ใดที่กล้าพอจะยอมรับความขัดแย้ง และสร้างสิ่งที่เสี่ยงต่อการถูกมองว่าในแง่ลบได้ แต่เราก็เห็นถูกนำมาใช้ในงาน Commercial
สื่อสังคมเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันเทรนด์นี้ เพราะนักออกแบบจะใช้ช่วงเวลาหนึ่งที่เป็นการทดลองเรียนรู้ความผิดพลาดได้ง่ายขึ้น บางครั้งผลงานจะมีปรากฏอยู่ชั่วขณะในฟีดสื่อโซเชียลของเรา ผลงานจะไม่ถาวรหรือต้องใช้แรงงานมากเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งทำให้ง่ายขึ้นและเสี่ยงน้อยลงที่จะลองทำสิ่งใหม่ได้อย่างรวดเร็วเหมือนวิญญาณพังค์ร็อค สนุกสนาน และน่าตื่นตาตื่นใจ ที่จะได้เห็นสิ่งที่นักออกแบบกำลังสร้างสรรค์
6. AI Generative Graphic
เราจะเริ่มได้เห็นกระบวนการสร้างงานจากการประมวลผลแบบสุ่ม โดยผ่านอัลกอริทึมหรือ AI Model แบบต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งผลงานแบบนี้จะเน้นที่กระบวนการสร้างสรรค์ ผลงานจะเน้นการสร้างนวัตกรรมทางการออกแบบ หรืออาจเป็นเชิงทดลอง ซึ่งกระบวนการก็สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับความทันสมัย นวัตกรรม ความกล้าที่จะทดลองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะวงการบันเทิง
สำหรับ Graphic Design Trend 2020 ในแง่หนึ่งทำให้เราได้เห็นทิศทางของสไตล์ภาพ และภาษาทางการออกแบบที่ถูกนำมาใช้เพื่อสื่อสารไอเดียต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ถูกกำหนดเทรนด์ด้วยแบรนด์ใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมทางการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์อย่าง Nike, Apple, Uber หรือ Spotify ด้านฝั่งสตูดิโอออกแบบที่ผู้นำอย่าง RG/A, Pentagram, Design.Studio, Wolff Olins หรือ Collins
นอกจากเทรนด์จะทำให้เห็นแนวโน้มและทิศทางของการออกแบบแล้ว แต่ในแง่หนึ่งก็ทำให้เราเห็นว่าช่วงทศตวรรษที่ผ่านมา วงการออกแบบได้สร้างสรรค์อะไรไปแล้วบ้าง ซึ่งก็ถือเป็นความท้าทายของนักออกแบบและนักสร้างสรรค์เพื่อสำรวจและค้นหาเทรนด์ใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน
Source : https://www.creativebloq.com/features/graphic-design-trends-2020